วันอาทิตย์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2555


แม่อาจารย์ มรภ.อุตรดิตถ์ จี้สอบ"ควายเผือกบุญมา"หาย ยันผิด พ.ร.บ.ราชภัฎแน่ ชี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก ขอโทษแล้วจบกันคงเป็นไปไม่ได้
เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม นางอิงอร เทพรักษา อายุ 56 ปี แม่ของน.ส.นันทวรรณ เทพรักษา อาจารย์อัตราจ้างสอน คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฎ (มรภ.) อุตรดิตถ์ ที่นำควายเผือกชื่อบุญมาไปบริจาคให้กับศูนย์อนุรักษ์กระบือไทย มรภ.อุตรดิตถ์ กล่าวว่า สิ่งที่ มรภ.อุตรดิตถ์ ชี้แจงผ่านสื่อมวลชนเป็นเรื่องที่สังคมรู้แล้ว และขอโทษแล้วจบกันคงเป็นไปไม่ได้ ที่ลูกสาวยื่นหนังสือเรียกต่อ มรภ.อุตรดิตถ์นั้น เป็นเพียงการชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นเท่านั้น และ มรภ.กลับโยนเรื่องให้นิติกรเป็นผู้ชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรแทน เชื่อว่าคงไม่รับรู้ความจริงว่าควายบุญมายังมีชีวิตอยู่หรือไม่

นางอิงอร กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กแล้ว เพราะสื่อและสังคมทั่วไปให้ความสนใจมาก พยายามสอบถามความจริงว่า เส้นทางของควายบุญมาไปอย่างไร แต่ผู้เกี่ยวข้องไม่บอกพยายามบอกบ่ายเบี่ยงตลอดเวลา หาก มรภ.อยากให้เรื่องนี้กระจ่างไม่ยากต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริง และคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมาต้องเป็นคนภายนอกไม่ใช่คนใน มรภ.อุตรดิตถ์ เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับอธิการบดี และผู้รับผิดชอบศูนย์อนุรักษ์กระบือที่เป็นคนใน มรภ.โดยตรง หากคนในทำเกรงจะไม่ได้ข้อเท็จจริง เพราะต้องมีการช่วยเหลือกันอย่างแน่นอน

"การมอบสิ่งของหรือแม้แต่ควายบุญมาให้กับ มรภ.อุตรดิตถ์ไปแล้ว ควายบุญมาถือว่าเป็นทรัพย์สินของ มรภ.อุตรดิตถ์ หาก มรภ.อุตรดิตถ์ ต้องการจะดำเนินการกับสิ่งที่บริจาคต้องกลับไปดูว่า พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยราชภัฎ พ.ศ.2547 มาตรา 15 วรรค 2 ที่ระบุว่า เงินและทรัพย์สินที่ผู้อุทิศให้แก่มหาวิทยาลัยจะต้องจัดการตามเงื่อนไขผู้ที่อุทิศให้กำหนดไว้ และต้องเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของมหาวิทยาลัย แต่ถ้ามีความจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขดังกล่าว มหาวิทยาลัยต้องได้รับความยินยอมจากผู้อุทิศให้หรือทายาท หากไม่มีทายาทหรือไม่ปรากฏ จะต้องได้รับอนุมัติจากสภามหาวิทยาลัย" นางอิงอร กล่าว

นางอิงอร กล่าวว่า เรื่องที่ควายบุญมาไม่อยู่ในศูนย์ ไม่ว่าจะเชือดแล้วหรือหายไปโดย มรภ.ไม่สามารถติดตามกลับมาได้ก็ตามิถือว่า มรภ.อุตรดิตถ์ กระทำผิดต่อ พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยดังกล่าว ที่สำคัญจุดประสงค์ของลูกสาวที่นำไปบริจาคให้ศูนย์ มรภ.อุตรดิตถ์ ต้องการให้อนุรักษ์ ไม่ใช่บริจาคแล้วให้เอาไปขายหรือนำไปเชือด หากเป็นศูนย์ต้องมีบัญชีควายทุกตัวว่ามีจำนวนเท่าได ต้องสามารถตรวจเช็คได้ว่า ควายที่ใครบริจาคยังอยู่ที่ศูนย์หรือไม่

นายชาญชัย เทพรักษา อายุ 57 ปี บิดาของ น.ส.นันทวรรณ กล่าวว่า พยายามสอบถามเรื่องนี้กับ มรภ.ว่าควายบุญมาของลูกสาวที่นำไปบริจาคยังอยู่หรือไม่ แต่เท่าที่สืบด้วยตัวเองทราบว่า ควายบุญมาถูกขายไปที่นายอัง ชาว ต.คุ้งตะเภา อ.เมืองอุตรดิตถ์ จากนั้นก็ขายให้กับโรงเชือดไปแล้วเช่นกัน