พิสูจน์ ‘แว้นเฮี้ยน’ หลังคลิปว่อนทำฮือฮา ชาวบ้านแห่ตีทะเบียนซื้อหวย!

พิสูจน์ ‘แว้นเฮี้ยน’ หลังคลิปว่อนทำฮือฮา ชาวบ้านแห่ตีทะเบียนซื้อหวย!

เป็นข่าวอีกแล้ว! จากกรณีนายนิว อายุ 18 ปี เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเมื่อวันที่ 2 ก.ย. ที่บริเวณถนนสายเอเชีย อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา และญาติได้นำศพมาบำเพ็ญกุศลที่วัดกล้วย ต.กระมัง อ.พระนครศรีอยุธยา จนกระทั่งเมื่อวันที่ 6 ก.ย. ก่อนพิธีฌาปนกิจศพ ญาติได้นำรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า นูโว สีเขียว ทะเบียน กรก 169 พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นรถคันโปรดของนายนิวมาจอดไว้หน้าเมรุ และสตาร์ตรถเอาไว้ โดยจุดธูปบอกว่าให้นายนิวมาขี่รถเป็นครั้งสุดท้าย ปรากฎว่าหลังจากนั้นได้เกิดเหตุการณ์ชวนขนหัวลุกขึ้น เมื่อรถจักรยานยนต์เกิดเร่งเครื่องได้เองเป็นจังหวะๆ และตัวรถโยกไปมาคล้ายมีคนขี่ จนทำให้บรรดาญาติๆ และผู้พบเห็นต่างตกตะลึงในความเฮี้ยนไปตามๆ กัน และหลังจากที่มีผู้ที่ถ่ายคลิปไว้นำมาโพสต์ลงในเฟซบุ๊กจนเป็นที่ฮือฮาทั้งในโลกออนไลน์และเป็นข่าวตามสื่อต่างๆ นั้น

 ล่าสุดเมื่อวันที่ 9 ก.ย. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านของนายนิว ในพื้นที่ ต.ไผ่ลิง อ.พระนครศรีอยุธยา พบว่ามีชาวบ้านและประชาชนจำนวนมาก ที่ติดตามข่าวนี้มามุงดูรถจักรยานยนต์คันที่ปรากฎภาพในคลิป ส่วนใหญ่จะมาขอให้สตาร์ตรถจักรยานยนต์ให้ดู เนื่องจากอยากทราบว่ารถคันดังกล่าวจะเร่งเครื่องได้เองหรือไม่ ซึ่งปรากฏว่าทางญาติติดเครื่องยนต์ทิ้งเอาไว้หลายครั้ง ก็ไม่ปรากฏว่าเครื่องยนต์เร่งเองได้ จนกระทั่งน้ำมันหมด ญาติจึงนำรถจักรยานยนต์ไปเก็บไว้ในบ้าน โดยชาวบ้านบางคนถือโอกาสมาขอดูหมายเลขทะเบียนรถเพื่อนำไปเสี่ยงโชคกันเลยทีเดียว

 นางเตน ทวีศิลป์ อายุ 55 ปี แม่บุญธรรม ที่เลี้ยงนายนิวมาตั้งแต่เด็ก เปิดเผยว่า หลังจากที่มีข่าวออกไปแล้วปรากฏว่าเพื่อนๆ ต่างเดินทางมาดูรถ และเชื่อว่าเป็นวิญญานของนิวมาแสดงให้เห็นว่ารักรถคันนี้มาก ซึ่งทางบ้านก็จะเก็บเอาไว้อย่างนี้ ส่วนคนที่ไม่เชื่อก็ไม่ว่าอะไร หลายคนมาขอให้เปิดเครื่องและตัวถังให้ดู เหมือนกับจะมาจับผิดซึ่งตนก็เปิดให้ดูและสตาร์ตเครื่องไปหลายครั้ง ซึ่งรถคันนี้หลังจากซื้อมาจากเพื่อนที่รู้จักกันราคา 1 หมื่นกว่าบาท นิวก็นำมาให้ญาติที่เป็นช่างซ่อมแต่งรถและทำเครื่องยนต์ใหม่ ทั้งเปลื่ยนลูกสูบ และแต่งท่อ ปกติทุกวันหรือก่อนขี่ นิวก็จะติดเครื่องยนต์ทิ้งเอาไว้ เพื่อให้เครื่องทำงาน ซึ่งเครื่องยนต์ก็จะเดินตามปกติไม่ได้กระชากหรือเร่งเหมือนในวันที่มีงานศพ มีหลายคนที่บอกว่าไม่เชื่อและมีการทำคันเร่งค้าง ตนก็ไม่ว่าอะไร หากอยากพิสูจน์ก็จะผ่าเครื่องให้ดูก็ได้ แต่ต้องรับผิดชอบค่าเสียหายทั้งหมด ตนจะเก็บรถเอาไว้อย่างนี้เพื่อระลึกถึงนิว เมื่อวันเผาศพเห็นรถมีเสียงดังรู้สึกตกใจ กลัวว่ารถจะวิ่งมาชนในงานศพ จึงได้ยกมือไหว้เอ่ยปากบอกว่าไม่ต้องห่วงลูกเมียจะดูแลให้เอง จากนั้นรถได้เบาเสียงลง จนถึงทุกวันนี้ได้ใส่บาตรทุกวัน

ไม่น่าเชื่อ! แม่น้ำแยงซีเปลี่ยนสีแดงเลือด - ผวาโยงวันสิ้นโลก

ไม่น่าเชื่อ! แม่น้ำแยงซีเปลี่ยนสีแดงเลือด - ผวาโยงวันสิ้นโลก

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานปรากฏการณ์ประหลาดในแม่น้ำแยงซี ฉายา ′ทางน้ำสีทอง′ เปลี่ยนเป็นสีแดงเข้มตลอดลำน้ำบริเวณมหานครฉงชิ่ง ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน สร้างความตื่นตกใจให้กับผู้คนที่พบเห็นเป็นจำนวนมาก ขณะที่เจ้าหน้าที่ด้านสิ่งแวดล้อมของจีนกำลังอยู่ระหว่างการสืบสวนและยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง แต่ระบุว่าอาจมีสาเหตุมาจากของเสียจากโรงงานอุตสาหกรรม หรือสีของหน้าดินจากเหตุน้ำป่าไหลหลาก

ศาสตราจารย์ เอมิลีย์ แสตนลีย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านอุทกวิทยาในชายฝั่ง จากมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน ประเทศสหรัฐ ระบุว่า สีดังกล่าวอาจมาจากแบคทีเรียบางชนิด แต่ลักษณะของการเปลี่ยนสีนั้นรวดเร็วมากจึงอาจเป็นฝีมือมนุษย์ที่ทิ้งขยะปนเปื้อนลงไปโดยเฉพาะจากโรงงานสีย้อมผ้า

ด้านเว็บข่าวเดลี่เมล์ สื่อดังของอังกฤษ ระบุว่า ปรากฎการณ์นี้ดูเหมือนจะคล้ายกับเนื้อหาในพระคัมภีร์ไบเบิลบท 16 ที่ระบุถึงสัญญาณของวันสิ้นโลก ว่าเทวดาจะโยนบาปลงสู่แม่น้ำต่าง ๆ และทำให้แม่น้ำกลายเป็นสีเลือด

แหล่งข่าว ข่าวสด

เด็กหญิง 12 ถูกเพดานหนีบหัวสาหัสในห้างดังย่านรังสิต

เด็กหญิง 12 ถูกเพดานหนีบหัวสาหัสในห้างดังย่านรังสิต

9 กันยา 55  พ.ต.ท.จำนงค์ กองตาพันธ์ พนักงานสอบสวน สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ จ.ปทุมธานี เปิดเผยสำนักข่าว INN ว่า เมื่อเวลาประมาณ 13.20 น. ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุ ภายในห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ย่านรังสิต จึงเดินทางไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบ ด.ญ.เอ๋ (นามสมมติ) อายุ 12 ปี ได้รับบาดเจ็บ ศีรษะติดอยู่ที่เพดาน ซอกระหว่างบันไดเลื่อน ระหว่างชั้นที่ 2 ขึ้นไปชั้นที่ 3 ศีรษะถูกหนีบทับเข้าซอกได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่รีบนำส่ง ร.พ.ปทุมเวช เบื้องต้นอาการโคม่า

จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ด.ญ.เอ๋ ได้เดินทางมาเรียนกวดวิชากับน้องสาวและมารดา ระหว่างเกิดเหตุ ชะโงกหน้าลงไปดูชั้นล่างที่มีสินค้าจำนวนมาก ก่อนที่จะเกิดเหตุสลดดังกล่าวขึ้น อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการสอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุ รวมถึงเจ้าของห้างและเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องว่า ทางห้างสรรพสินค้ามีการวางมาตรการในการป้องกันอุบติเหตุดังกล่าวหรือไม่

นักข่าวอ้างเป็นตำรวจ ขู่ รีดไถร้านเกม ตบพนักงาน-ยิงปืนขู่

นักข่าวอ้างเป็นตำรวจ ขู่ รีดไถร้านเกม ตบพนักงาน-ยิงปืนขู่

เมื่อวันที่ 9 กันยา 55 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีคนนำคลิปวีดีโอผ่านทางสังคมออนไลน์ แฉพฤติกรรมกลุ่มชายฉกรรจ์ที่อ้างตัวเป็นตำรวจ บุกเข้าไปในร้านเกม-อินเทอร์เน็ต ชื่อร้านเวอร์จิ้นเน็ต เลขที่ 665/4 ถ.ศรีเกิด เทศบาลนครเชียงราย อ.เมืองเชียงราย โดยภาพในคลิปวิดีโอเป็นภาพในกล้องวงจรปิดของร้าน มีกลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าว เข้าไปตบต่อยคนดูแลร้านทั้งชาย-หญิง ก่อนจะชกต่อยกับเจ้าของร้าน และออกไปที่หน้าร้านถีบรถจักรยานยนต์ของผู้ที่มาใช้บริการจนล้มคว่ำหลายคัน รวมทั้งได้ชักอาวุธปืนพกสั้นยิง เพื่อข่มขู่อีกหลายนัด

จากการตรวจสอบข้อมูลทราบว่า เมื่อเวลาประมาณ 03.00 น.ของวันที่ 8 ก.ย. สภ.เมืองเชียงราย ได้รับแจ้งมีเหตุรุนแรงขึ้นที่ร้านเกมส์ดังกล่าว จึงไปตรวจสอบพบชาย 2 คน กำลังทะเลาะวิวาทกับคนในร้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรีบเข้าไประงับเหตุ แต่ชายทั้งคู่ได้เดินเลี่ยงไปข้างร้าน ก่อนจะมีเหตุตะลุมบอนกันขึ้นอีก ซึ่งชายอีกคนกลับยิงปืนขึ้นฟ้าอีก 3 นัด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรีบเข้าจับกุม และควบคุมตัวไปที่โรงพัก

ส่วนชายฉกรรจ์ทั้งคู่นั้น ทราบว่าเป็นผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นคนหนึ่ง และผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ และหนังสือพิมพ์ส่วนกลางอีก 1 คน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อหาครอบครองอาวุธปืนและพกพาอาวุธปืนเข้ามาในเมืองโดยไม่มีเหตุอันสมควร และยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ทั้งคู่ให้การปฏิเสธและไม่ยอมลงชื่อรับทราบข้อกล่าวหา ล่าสุดได้มีการประกันออกไปสู้คดีแล้วด้วยวงเงินรวมทั้ง 2 คน ประมาณ 200,000 บาท

นายธัชพล พันธุศิลป์ อายุ 32 ปี เจ้าของร้านเวอร์จิ้นเน็ต กล่าวหลังเข้าแจ้งความว่า ก่อนหน้านี้ได้ถูกคนกลุ่มเดียวกันนี้ร่วมกับชายฉกรรจ์อีก 2 คน รวมเป็น 4 คน อ้างเป็นตำรวจปราบปรามการค้ามนุษย์ เข้าไปตรวจร้านเกมอ้างว่าปล่อยให้เด็กเข้าไปเล่นเกินเวลา แต่กลุ่มชายฉกรรจ์ได้ต่อรองให้จ่ายเงินให้เดือนละ 2,000-3,000 บาท แต่คนไม่ยอมจ่ายกลุ่มคนเหล่านี้จึงแยกย้ายไป กระทั่งคืนเกิดเหตุ ได้รับแจ้งจากคนเฝ้าร้านว่ามีคนเข้าไปที่ร้านอีก ซึ่งเด็กผู้หญิงหน้าร้านบอกกลับไปว่า ร้านมีใบอนุญาตถูกต้อง จึงถูกตบทันทีทั้งยังไล่ทำร้ายพนักงานคุมร้าน ทั้งชายและผู้หญิงรวม 2 คน พร้อมกับพยายามพังคอมพิวเตอร์ ก่อนออกมาถีบจักรยานยนต์หน้าร้านจนล้มหลายคัน

นายธัชพล กล่าวอีกว่า เมื่อตนไปถึงที่ร้านก็ถูกขว้างปาสิ่งของเข้าใส่และชกต่อย ก่อนชายหนึ่งในนั้นจะเอาปืนจ่อที่ตนพร้อมข่มขู่ และยึดกุญแจรถจักรยานยนต์ไป ตนตกใจวิ่งเข้าไปในร้านก็เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจไปถึงที่เกิดเหตุแล้ว ทั้งนี้หลังเกิดเหตุได้มีคนพยายามโทรศัพท์ไปขอให้ถอนแจ้งความ แต่ตนไม่ยอมและจะต่อสู้เรียกร้องความเป็นธรรมให้ถึงที่สุด และยังทราบว่าพฤติกรรมเช่นนี้เกิดขึ้นกับร้านอื่นเช่นกัน

ร้อน! ปชป. อัด คำรณวิทย์ ทำผิดวินัยร้ายแรง เตรียมยื่น ผบ.ตร.สอบ

ร้อน! ปชป. อัด คำรณวิทย์ ทำผิดวินัยร้ายแรง เตรียมยื่น ผบ.ตร.สอบ

ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายราเมศ รัตนเชวง รองโฆษกและฝ่ายกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ แถลงกรณี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. ยอมรับว่าไปพบพ.ต.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ประดับยศให้ ว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์ มีพฤติกรรมเข้าข่ายผิดจริยธรรมและผิดวินัยอย่างร้ายแรง ตามพ.ร.บ.ตำรวจ พ.ศ. 2547  เนื่องจากเป็นตำรวจ แต่ไปพบกับผู้ต้องหาที่มีความผิดทางกฎหมายประเทศไทย แต่การที่ไปพบผู้ต้องหา แสดงว่าไม่มีจิตสำนึกของความเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ที่ต้องรับใช้ประชาชนและเป็นข้าราชการของทุกรัฐบาล ไม่ใช่ให้สัมภาษณ์ หากรัฐบาลเปลี่ยนก็จะลาออกทันที

โดยวันที่ 10 ก.ย. เวลา 13.00 น. นายราเมศจะเดินทางไปพบ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์  ผบ.ตร. ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) เพื่อให้ดำเนินการตามกฎหมาย เพื่อให้เป็นบรรทัดฐานต่อไปว่าข้าราชการตำรวจที่ไปพบกับผู้ต้องหาหรือจำเลยทำได้หรือไม่ รวมถึงทำสำเนาถึง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงห์สิงแก้ว ว่าที่ ผบ.ตร.คนใหม่ด้วย

นอกจากนี้ เตรียมยื่นหนังสือถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ว่ามีแนวคิดอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ เนื่องจากร.ต.อ.เฉลิม ออกมาระบุว่า พล.ต.อ.คำรณวิทย์ ไม่มีอำนาจไปจับกุมนอกประเทศ จึงไม่สามารถเอาผิดตามมาตรา 157 ได้ ดังนั้น ร.ต.อ.เฉลิม กล้ายืนยันหรือไม่ ว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ไม่มีความผิดทางวินัยหรือจริยธรรม

แหล่งข่าว Mthai

"โหมหนัก"พายุทอร์นาโดพัดขึ้นฝั่งนครนิวยอร์ก

"โหมหนัก"พายุทอร์นาโดพั

วันนี้ (9 ก.ย.) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกาว่า พายุทอร์นาโดขนาดเล็ก 2 ลูก ได้พัดขึ้นฝั่งนครนิวยอร์กแล้ว เมื่อวันเสาร์ที่ 8 ก.ย. ที่ผ่านมา สร้างความตกใจให้กับชาวเมืองเพราะมักจะรู้จักคุ้นเคยกับความเร็วลมของพายุเหล่านี้ ซึ่งมักจะเกิดขึ้นในพื้นที่ตะวันตกตอนกลางของสหรัฐมากกว่า
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของสหรัฐ แจ้งว่า ผลจากการพัดขึ้นฝั่งของพายุทอร์นาโด ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ในเขต ลองไอร์แลนด์ นครนิวยอร์ก รวมถึงรัฐเพื่อนบ้านอย่างคอนเนคติกัต ตลอดทั้งวันไปจนถึงค่ำวันเสาร์ที่ผ่านมามีกลุ่มเมฆฝนรูปกรวยขึ้นฝั่งที่เขตคานาร์ซี ย่านบรุคลินของนครนิวยอร์ก และบรีซี พอยต์ ย่านควีนส์ แต่ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ นอกเสียจากความเสียหายของต้นไม้หักโค่น และกระจกร้านค้าแตกกระจายบางร้านเท่านั้น.

แหล่งข่าว dailynews

ประเด็นร้อน! "มหาดไทย" ห้ามข้าราชการเล่นเฟซบุ๊ก-ใช้คอมพ์หลวงท่องโลกออนไลน์

ประเด็นร้อน! "มหาดไทย" ห้ามข้าราชการเล่นเฟซบุ๊ก-ใช้คอมพ์หลวงท่องโลกออนไลน์

 เมื่อวันที่ 8 ก.ย. ที่ผ่านมา  นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ ผอ.ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ชี้แจงถึงกรณีกระทรวงมหาดไทย (มท.) มีคำสั่งห้ามข้าราชการมท. ใช้อินเตอร์เน็ต โดยเฉพาะห้ามเล่นเว็บดัง "เฟซบุ๊ก" ในเวลาราชการ มีเนื้อหาดังนี้

  คำสั่งดังกล่าวใช้เฉพาะข้าราชการในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทยเท่านั้น 

 ไม่เกี่ยวกับกรมหรือหน่วยงานราชการอื่นๆ รวมถึงงานด้านการทะเบียน เพราะระบบทะเบียนเป็นของกรมการปกครอง ไม่เกี่ยวข้องกับสำนักงานปลัดกระทรวง 

 โดยการบล็อกสัญญาณจะบล็อกจากศูนย์แม่ข่ายของศูนย์เทคโนโลยีฯ เพราะที่ผ่านมาข้อมูลเครือข่ายงานด้านการจราจรแออัดมาก เช่น ข้าราชการเปิดใช้อินเตอร์เน็ต 100 เครื่อง มีการเปิดหน้าจอเฟซบุ๊ก หรือ ดาวน์โหลดภาพและเสียงผ่านเว็บไซต์ยูทูบ 80 เครื่อง ทำให้การใช้งานอีก 20 เครื่องในการสืบค้นข้อมูลทางราชการเป็นไปอย่างล่าช้า อีกทั้งหนังสือสั่งการระบบสารบรรณ ไม่สามารถเรียกขึ้นมาใช้งานได้ทันที 

 ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้อง "บล็อกเฟซบุ๊ก" เพราะเป็นการเอาเครื่องราชการมาใช้งานส่วนตัว และไม่ถือว่าเป็นการริดรอนสิทธิของข้าราชการ 

 แต่หากใครใช้สัญญาณอินเตอร์เน็ตจากโทรศัพท์ส่วนตัวเชื่อมเครื่องส่วนตัว ก็สามารถทำได้ 

 ทั้งนี้ การบล็อกสัญญาณดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือไอซีที กระทรวงมหาดไทยสามารถดำเนินการได้เองผ่านเครือข่ายของมหาดไทย

 ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 7 ก.ย. 5 มีหนังสือจากนายประชา เตรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย  ปฏิบัติราชการแทนปลัดกระทรวงมหาดไทย ลงวันที่ 6 กันยายน 2555 ด่วนที่สุด  เรื่อง มาตรการใช้งานระบบอินเทอร์เน็ต ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด พร้อมแนบสถิติการใช้งานระบบอินเทอร์เน็ตให้ด้วย

 

 สำหรับหนังสือดังกล่าว ระบุว่า ด้วยศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบการใช้งานระบบอินเตอร์เน็ตของสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้ตรวจสอบการใช้งานของระบบอินเตอร์เน็ตในรอบ 8 เดือน ในปีงบประมาณ 2555 พบว่า  โดเมนที่มีจำนวนการเรียกใช้มากที่สุด 10 อันดับแรก ปรากฏว่าเป็นการใช้บริการดาวน์โหลดข้อมูลภาพและเสียง จากเว็บไซต์ของต่างประเทศในลักษณะออนไลน์ เช่น facebook (เฟซบุ๊ก) อีกทั้งระบุว่า การใช้งานดังกล่าวไม่เป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติงานราชการ ทำให้สิ้นเปลืองช่องสัญญาณ (Bandwidth) จำนวนมาก

 

 ทั้งนี้ สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทยได้กำหนดมาตรการการใช้งานระบบอินเตอร์เน็ต โดยระงับการเข้าถึง Website ที่ให้บริการดาวน์โหลดข้อมูลภาพและเสียง เช่น facebook ที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติงานบางเว็บไซต์ และงดการใช้งานเว็บออนไลน์ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2555 เป็นต้นไป ในช่วงระหว่างเวลา 08.30-12.00 น. และ 13.00-16.30 น. พร้อมกับแจ้งผู้ปฏิบัติงานในสังกัดทราบและถือปฏิบัติตามมาตรการดังกล่าวต่อไป

ลืออึ้งทั่วโลก "มอร์แกน ฟรีแมน" ดาราฮอลลีวู้ดชื่อดังตายแล้ว!

ลืออึ้งทั่วโลก "มอร์แกน ฟรีแมน" ดาราฮอลลีวู้ดชื่อดังตายแล้ว!

วันที่ 9 ก.ย. เว็บไซต์ข่าวบันเทิงชื่อดังของสหรัฐ อีออนไลน์ รายงานว่า ช่วงวันสองวันที่ผ่านมา มีข่าวลือแพร่สะพัดอย่างหนักในโลกไซเบอร์ ทั้งผ่านเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ อ้างว่า "มอร์แกน ฟรีแมน" วัย 75 ปี ดาราอาวุโสแห่งฮอลลีวู้ดผู้มีชื่อเสียงระดับโลกได้เสียชีวิตแล้ว กระทั่งล่าสุด ฟรีแมนจึงมอบหมายให้ตัวแทนออกมายืนยันกับสื่อสหรัฐ รวมถึงอีออนไลน์ ว่า นักแสดงรุ่นใหญ่ยังไม่ตาย ทุกวันนี้สุขภาพยังเป็นปกติดี พร้อมฝากเตือนแฟนๆ ด้วยว่า "อย่าเชื่อทุกอย่างที่คุณเจอในอินเตอร์เน็ต"

ทั้งนี้ หนึ่งในเฟซบุ๊กที่ปล่อยข่าวฟรีแมนตายแหกตาคนทั้งโลก คือ เฟซบุ๊กใช้ชื่อว่า RIP-Morgan-Freeman ซึ่งปัจจุบันมีคนเข้าไปกดไลค์ หรือสมัครติดตามความเคลื่อนไหวเกือบ 70,000 รายแล้ว

ขอบคุณข้อมูล ข่าวสด

ฆาตกรรมโหด! รองเจ้าคณะจังหวัดสกลนคร ดับคากุฏิ

ฆาตกรรมโหด! รองเจ้าคณะจังหวัดสกลนคร ดับคากุฏิ

โจรใจบาปบุกฆ่ารองเจ้าคณะจังหวัดสกลนคร ทุบหัวรัดคอมรณภาพคากุฎิ ตร.คาดปมสังหารกรณีความขัดแย้งเกาะดอนสวรรค์ และฆ่าชิงทรัพย์

วันที่ (9 ก.ย.) เมื่อวันที่ 8 ก.ย. สภ.เมืองสกลนคร รับแจ้งมีพระภิกษุถูกฆ่าตาย ในวัดศรีสุมังคล์ เลขที่ 1063 ถนนเรืองสวัสดิ์ เทศบาลนครสกลนคร จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ที่เกิดเหตุอยู่ในอาคารโบแดงอนุสรณ์ ซึ่งเป็นกุฏิเจ้าอาวาส ภายในห้องน้ำชั้น 2 พบศพ ท่านเจ้าคุณศรีสกลกิจ รองเจ้าคณะจังหวัดสกลนคร เจ้าอาวาสวัดศรีสุมังคล์ ถูกทุบด้วยของแข็งที่ศีรษะ ลำคอถูกรัดด้วยสายรัดปะคต ตรวจสอบภายในห้องพบร่องรอยการต่อสู้  มีเลือดไหลนองพื้น และมีรอยลากเป็นทางยาวมาจากกลางห้องไปยังห้องน้ำ ขณะที่ทรัพย์สินถูกรื้อค้นกระจัดกระจาย เงินบริจาคในตู้ตู้รับบริจาคหายไป

สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้ตายจะเปิดประตูกุฎิทุกเช้ามืด แต่วันนี้กุฏิกลับถูกปิดเงียบ ทั้งที่ไม่มีกิจนิมนต์ที่ไหน พระและเณรจึงช่วยกันเคาะเรียก แต่ไม่มีการตอบรับจึงเดินมาตรวจสอบที่ประตูด้านทิศตะวันออกเห็นประตูเปิดแง้มอยู่ จึงขึ้นไปดูและพบเสียชีวิตในลักษณะดังกล่าว

ด้านตำรวจสันนิษฐานว่า คนร้ายน่าจะมีมากกว่า 3 คน และ้ป็นคนรู้จักคุ้นเคยกับผู้ตายดี ได้มาทำทีมาเคาะประตูเรียกผู้ตาย เพื่อปรึกษาปัญหาบางอย่าง ก่อนจะลงมือสังหารอย่างโหดเหี้ยม โดยสาเหตุหลักของการสังหารน่าจะมาจากการที่ผู้ตาย เป็นผู้ริเริ่มชักชวนวัดธรรมกายมาสร้างที่พำนักปฎิบัติธรรม ที่เกาะดอนสวรรค์ กลางหนองหาร การออกโฉนดที่ดินบนเกาะเป็นธรณีสงฆ์ ส่วนประเด็นฆ่าชิงทรัพย์ก็จะยังไม่ตัดทิ้ง และได้ประสานฝ่ายสืบสวนเร่งสืบสวนติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว เนื่องจากผู้ตายเป็นพระชั้นผู้ใหญ่ มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย และเป็นคดีสะเทือนขวัญ

แม่่นักเรียนสาว 16 ตกคอนโด เชื่อลูกสาวถูกฆ่า

แม่่นักเรียนสาว 16 ตกคอนโด เชื่อลูกสาวถูกฆ่า

รายงาน (8 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่เด็กนักเรียนหญิง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ของโรงเรียนชื่อดังย่านสุขุมวิท พลัดตกลงมาจากคอนโดมิเนียมย่านบางนา ชั้นที่ 10 เมื่อวันที่ 5 กันยายนที่ผ่านมา จนเป็นเหตุทำให้เสียชีวิต เบื้องต้นรายงานว่าเป็นอุบัติเหตุ แต่ล่าสุดผู้ปกครองเชื่อว่าเป็นเหตุฆาตกรรมอำพราง

น.ส.โบ (นามสมมติ) แม่ของ น.ส.บัว (นามสมมติ) อายุ 16 ปี เปิดเผยเกี่ยวกับคดีดังกล่าวว่า ตอนนี้กำลังรอฟังผลชันสูตรพลิกศพอย่างใจจดจ่อ และกำลังนำศพลูกสาวไปประกอบพิธีทางศาสนา

ทั้งนี้ยังได้ประสานงานให้ทนายความยื่นหนังสือขอเอกสารจากทางพนักงานสอบสวน พร้อมกับจะนำร่างลูกสาวส่งให้สถานบันนิติเวชวิทยาตรวจสอบอีกครั้ง เนื่องจากตัวเองและญาติๆ ไม่เชื่อว่าเป็นอุบัติเหตุ ลูกสาวน่าจะถูกฆาตกรรมจากบุคคลที่อยู่ในคอนโดฯ ดังกล่าว

แม่ของ น.ส.บัว ยังเปิดเผยต่ออีกว่า มีความคิดเห็นตรงข้ามพนักงานสอบสวนที่ระบุว่า การเสียชีวิตของลูกสาวเป็นอุบัติเหตุ เพราะวันเกิดเหตุภายในห้องลูกสาวมีร่องรอยการรื้อค้นทรัพย์สิน อีกทั้งเงินสดหลายหมื่นบาทได้สูญหายไป ส่วนประตูห้องไม่มีการล็อกหรือลงโซ่คล้อง ทั้งที่ปกติลูกสาวเป็นคนระวังหน้าระวังหลัง เข้าห้องจะล็อกอย่างแน่นหนา รวมทั้งก่อเกิดเหตุตนได้ฝากกุญแจไว้กับผู้ดูแลคอนโดฯ เพื่อให้ช่างประปาเข้าไปซ่อมห้องน้ำที่ชำรุด

นอกจากนี้ ส่วนตัวยังพบว่ามีพิรุธอยู่หลายจุด เนื่องจากเพิ่งขอตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของคอนโดฯ แต่กลับพบว่ามีการเซ็ทค่าใหม่ ทำให้ไม่สามารถจับภาพคนที่เดินผ่านไปมาตรงห้องลูกสาวในช่วงที่เกิดเหตุได้ ทำให้ตอนนี้ตนเองเชื่อว่าลูกสาวถูกฆาตกรรมอำพราง มากกว่าจะเป็นอุบัติเหตุ

ล่ารายชื่อคัดค้าน “ธรรมกาย“ ขึ้นทะเบียนจาก “วัดดอนสวรรค์“ เป็นวัดร้าง

ล่ารายชื่อคัดค้าน “ธรรมกาย“ ขึ้นทะเบียนจาก “วัดดอนสวรรค์“ เป็นวัดร้าง

ในวันที่ (8 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่เด็กนักเรียนหญิง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ของโรงเรียนชื่อดังย่านสุขุมวิท พลัดตกลงมาจากคอนโดมิเนียมย่านบางนา ชั้นที่ 10 เมื่อวันที่ 5 กันยายนที่ผ่านมา จนเป็นเหตุทำให้เสียชีวิต เบื้องต้นรายงานว่าเป็นอุบัติเหตุ แต่ล่าสุดผู้ปกครองเชื่อว่าเป็นเหตุฆาตกรรมอำพราง

น.ส.โบ (นามสมมติ) แม่ของ น.ส.บัว (นามสมมติ) อายุ 16 ปี เปิดเผยเกี่ยวกับคดีดังกล่าวว่า ตอนนี้กำลังรอฟังผลชันสูตรพลิกศพอย่างใจจดจ่อ และกำลังนำศพลูกสาวไปประกอบพิธีทางศาสนา

ทั้งนี้ยังได้ประสานงานให้ทนายความยื่นหนังสือขอเอกสารจากทางพนักงานสอบสวน พร้อมกับจะนำร่างลูกสาวส่งให้สถานบันนิติเวชวิทยาตรวจสอบอีกครั้ง เนื่องจากตัวเองและญาติๆ ไม่เชื่อว่าเป็นอุบัติเหตุ ลูกสาวน่าจะถูกฆาตกรรมจากบุคคลที่อยู่ในคอนโดฯ ดังกล่าว

แม่ของ น.ส.บัว ยังเปิดเผยต่ออีกว่า มีความคิดเห็นตรงข้ามพนักงานสอบสวนที่ระบุว่า การเสียชีวิตของลูกสาวเป็นอุบัติเหตุ เพราะวันเกิดเหตุภายในห้องลูกสาวมีร่องรอยการรื้อค้นทรัพย์สิน อีกทั้งเงินสดหลายหมื่นบาทได้สูญหายไป ส่วนประตูห้องไม่มีการล็อกหรือลงโซ่คล้อง ทั้งที่ปกติลูกสาวเป็นคนระวังหน้าระวังหลัง เข้าห้องจะล็อกอย่างแน่นหนา รวมทั้งก่อเกิดเหตุตนได้ฝากกุญแจไว้กับผู้ดูแลคอนโดฯ เพื่อให้ช่างประปาเข้าไปซ่อมห้องน้ำที่ชำรุด

นอกจากนี้ ส่วนตัวยังพบว่ามีพิรุธอยู่หลายจุด เนื่องจากเพิ่งขอตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของคอนโดฯ แต่กลับพบว่ามีการเซ็ทค่าใหม่ ทำให้ไม่สามารถจับภาพคนที่เดินผ่านไปมาตรงห้องลูกสาวในช่วงที่เกิดเหตุได้ ทำให้ตอนนี้ตนเองเชื่อว่าลูกสาวถูกฆาตกรรมอำพราง มากกว่าจะเป็นอุบัติเหตุ