วันอังคารที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2555


สุดรันทด อดีตเศรษฐี 100 ล้าน ตกอับยากจน

ชีวิตคนเราอะไรๆก็เป็นไปได้ อดีตเศรษฐีเมืองกรุง 100 ล้าน คนเรียก"เจ้าแม่พัฒน์พงศ์ "ตกอับ อยู่บ้านลำปางตามลำพัง ไร้ลูกญาติพี่น้องเหลียวแล
ผู้สื่อข่าวรับรายงานว่า มีอดีตเศรษฐีนี 100 ล้าน ชาวกรุงเทพฯ ตกอับ อาศัยอยู่บ้านตามลำพัง ไร้ลูกญาติพี่น้องเหลียวแล เมื่อไปถึงที่บ้านเอื้ออาทร ตั้งอยู่ที่บ้านพิชัย อ.เมือง จ.ลำปาง พบกับนางสุภาณี ศรีสุภะ อายุ 73 ปี เป็นชาวกรุงเทพมหานคร นางสุภาณี เล่าทั้งน้ำตาว่า สาเหตุที่ตนต้องอยู่คนเดียวและไม่มีคนดูแล เนื่องจากอดีตตนเป็นคนที่ฐานะร่ำรวย และถือว่าเป็นเศรษฐี มีเงินเป็นร้อยล้าน เคยมาเปิดบาร์ที่ย่านพัฒน์พงศ์จนมีเงินร่ำรวย และคนแถวนั้นเรียกตนว่าเจ้าแม่พัฒน์พงศ์ จากนั้นเดินทางมาอยูที่ลำปาง ตั้งแต่ปี 2553 จนปัจจุบันไม่มีเงินทองและทรัพย์สินติดตัวหมดเนื้อหมดตัว ส่วนขณะนี้บ้านที่อาศัยอยู่ถูกตัดน้ำตัดไฟ ไม่มีเงินจ่าย บางครั้งก็เอาเสื้อผ้าที่มีอยู่ต้องเอาไปขายหาเงินมาไว้ซื้อข้าวกิน จนหมดไม่มีอะไรจะขายแล้ว แต่โชคดีที่มีเพื่อนที่สงสารหาอาหารกับข้าวมาให้ ส่วนตอนนี้ก็คิดหนักอยากจะไปย้ายไปอยู่บ้านพักคนชราแล้ว เพราะอย่างน้อยก็มีคนคอยดูแลและมีข้าวกิน เชื่อว่าอาจจะเป็นบ้านหลังสุดท้ายในบั้นปลายของชีวิต

แหล่งข่าว sanook.com


คลิปเป็นข่าว:  ชาวเน็ตจวบยับ แข้งยู-16 ทิ้งเสื้อทีมชาติลงพื้น
กลายเป็นกระแสในโลกไซเบอร์ไปเป็นที่เรียบร้อย สำหรับคลิป “อำนาจ ภมรประเสริฐ”นักฟุตบอลเยาวชนทีมชาติไทยชุดอายุไม่เกิน 16 ปี หลังทำพฤติกรรมไม่เหมาะสม ถอดเสื้อที่ปักธงชาติไทย ทิ้งลงกับพื้นแบบไม่แคร์สื่อ ระหว่างการเปลี่ยนตัวออกจากสนาม ในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย ยู-16 ที่ทีมชาติไทย พ่าย อิรัก ไป 0-2



เหตุการณ์ในคลิปดังกล่าว เกิดขึ้นในเกมส์ระหว่างทีมชาติไทย พบ ทีมชาติอิรัก ในการแข่งขันฟุตบอล เอเอฟซี ชิงแชมป์เอเชีย ยู-16 ที่ประเทศอิหร่าน เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยในนาทีที่ 76 ขณะที่ทีมชาติไทยตามหลัง อิรัก อยู่ 0-2 อำนาจ ได้ถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนาม และระหว่างการเดินออกจากสนามนั้น เขาได้ถอดเสื้อออก แต่แทนที่จะถือติดมือไปด้วย อำนาจได้ทิ้งเสื้อ ซึ่งมีสัญลักษณ์ธงชาติไทย ไว้บนพื้นสนาม แบบไม่เห็นความสำคัญ สร้างความไม่พอใจให้แฟนบอลไทยหลายคนในโลกอินเตอร์เน็ต ออกมาตำหนิและวิจารณ์การกระทำดังกล่าว พร้อมเรียกร้องให้ อำนาจ และผู้ที่เกี่ยวข้องออกมาขอโทษกับกรณีที่เกิดขึ้น

ขอบคุณ Mthai

เป็นข่าว! ชาวโคกสูงเชิญเกจิทำพิธี"ฟังของกันปอบ"

จากเหตุการณ์ที่มีชาวบ้านในหมู่บ้านโคกสูง หมู่ 1 ต.โคกสูง อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ เจ็บป่วยและเสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุหลายราย ทำให้มีกระแสข่าวลือว่าเกิดจากผีปอบเข้าสิงร่าง ทำให้เกิดอาการมือเท้าเกร็ง แขนขาชา ปวดศีรษะ นับ 10 ราย และการกล่าวหาว่ามีชาวบ้านคนนึงเป็นปอบ ทำให้กิจการได้รับความเสียหาย ทำให้เกิดข้อถกเถียงในเรื่องความเชื่อของคนในหมู่บ้านแห่งนี้

ล่าสุดเมื่อเวลา 12.00 น. ของวันนี้ (25 ก.ย.) ชาวโคกสูงจึงทำพิธี “ป้องกันผีปอบ” โดยเชิญพระครูปลัดมงคล และลูกศิษย์มาทำพิธี ที่ศาลาประจำหมู่บ้าน โดยมีชาวบ้านกว่า1,000 คน มาดูการทำพิธีอย่างใจจดใจจ่อ
นายวิชัย วาทโยธา ลูกศิษย์พระครูปลัดมงคล ซึ่งเป็นตัวแทนพระครู ประกอบพิธีฝังของขลัง ด้วยการเดินทางไปศาลเจ้าปู่ประจำหมู่บ้าน เพื่อเอาแผ่นศิลาแรงขนาดประมาณ1.5 x 2 นิ้ว ที่ถูกปลุกเสกเรียบร้อย ด้วยการเขียนคาถา 2 ด้าน นำไปฝังความลึก 50 ซม. ทั้ง 4 ทิศของหมู่บ้าน
นายวิชัย บอกว่า จากการทำพิธีพบว่ามีผีหลายตัว อาศัยอยู่ในหมู่บ้านนี้ ซึ่งพระครูปลัดมงคล ได้ให้นำศิลาแรงปลุกเสก ไปฝั่ง 4 มุมหมู่บ้าน จะสามารถป้องกันผี หรือปอบได้ทุกชนิด หลังจากนี้จะไม่มีเรื่องในลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นอีก
ด้านนางสมสวย สินสุพรรณ อายุ 49 ปี อสม.ประจำหมู่บ้าน หนึ่งผู้ป่วยที่มีอาการเกร็งเหมือนผีเข้า บอกว่า การทำพิธีในวันนี้ ทำให้ตนรู้สึกสบายใจ และไม่หวาดกลัวสิ่งกับใดๆอีกต่อไปแล้ว

ขณะที่นายสม ดอมไธสง อายุ 73 ปี รู้สึกอับอาย เพราะจากข่าวที่นำเสนอไปจะทำให้หมู่บ้านของตน ถูกดูถูกจากนักวิชาการ หรือผู้มีความรู้ได้ แม้ว่าจะเป็นเรื่องของความเชื่อก็ตาม

เช่นเดียวกับนายจำรัส ศรีสุพรรณ  ที่ไม่เชื่อว่าผีปอบมีจริงตามเชื่อของชาวบ้าน  โดยเฉพาะการกล่าวหาคนที่ไม่รู้เรื่องว่าเป็นผีปอบนั้น เป็นการกระทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย ซึ่งไม่น่าจะเกิดขึ้นในสังคมปัจจุบันแล้ว ส่วนกรณีอาการเจ็บป่วยของชาวบ้านน่าจะมาจากปัญหาสุขภาพของแต่ละบุคคลมากกว่า

ขอบคุณ ครอบครัวข่าว3



คลิปเป็นข่าว! เลือกตั้งเดือด! นายก ทต.หนองหาน

ผู้สมัครเบอร์ 2 นายหาญชัย ออพานิจกิจ และนายจีระศักดิ์ จำนงนิจ กำนัน ต.หนองหาน 
เข้าไปอาละวาดในคูหา การเลือกตั้ง ข่มขู่เจ้าพนักงาน กกต. ไม่ให้มีผลการนับคะแนนเลือกตั้งใหม่ ทั้งๆที่ผู้มาใช้สิทธิ์ ไม่ตรงกับคะแนนเลือกตั้ง
(ผู้สมัครเบอร์ 2 ใส่เสื้อลายสก๊อตสีเขียว)
(กำนันตำบลหนองหาน ใส่เสื้อลายสก๊อตสีแดง)

..
สาวสวย เข้าค่ายฝึกพริตตี้ ไปดูเขาฝึกกันอย่างไร ?

    

ละคร แม่ยายคงกระพัน (ตอนที่10)  25 กันยายน 2555 


แม่ยายคงกะพัน เป็นเรื่องราวของ คุณนายอุ่นเรือน” สาวใหญ่วัยครึ่งร้อยที่สวยเด้ง ราวกับสาว 30 ยังแจ๋ว คนสวย คนดี คนเก่ง…อยู่ยงคงกระพัน…ตายยาก และยิ่งต้องมีหน้าที่กลั่นกรองคนที่จะมาเป็นเขย เธอตายไม่ได้!!  ติดตามความชุลมุนวุ่นวาย ของแม่ยายกับลูกเขย และความรักของแม่ยายกับชายคนรักที่พรากจากกัน ว่าจะลงเอยเช่นไร…นี่แหละจุดอ่อนของ แม่ยายคงกระพัน



ละคร แม่ยายคงกระพัน (ตอนที่10)  25 กันยายน 2555  1/6

ละคร แม่ยายคงกระพัน (ตอนที่10)  25 กันยายน 2555  2/6
ละคร แม่ยายคงกระพัน (ตอนที่10)  25 กันยายน 2555  3/6
ละคร แม่ยายคงกระพัน (ตอนที่10)  25 กันยายน 2555  4/6 

ละคร แม่ยายคงกระพัน (ตอนที่10)  25 กันยายน 2555  5/6
ละคร แม่ยายคงกระพัน (ตอนที่10)  25 กันยายน 2555  6/6


แฉยับ! "เลดี้ กาก้า" นักร้องสาวชื่อดัง เมากัญชาคาคอนเสิร์ต

เข้าใจว่าชอบแหวกแนว แต่ก็ควรจะรู้กาละเทศะบ้าง สำหรับ เลดี้ กาก้า ป็อปสตาร์สาวจอมหลุดโลก ที่จัดการงัดกัญชาขึ้นมาดูดโชว์บนเวทีระหว่างการแสดงต่อหน้าแฟนเพลงชาวดัตช์หลายพันคนในคอนเสิร์ตที่ กรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศฮอลแลนด์ ถึงแม้ว่าสารเสพติดประเภทดังกล่าวจะได้รับการอนุญาตให้มีการซื้อขายได้อย่างถูกกฎหมายในประเทศนี้ได้ก็ตาม เมื่อวันจันทร์ที่ 17 ก.ย. ที่ผ่านมา
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในจังหวะที่ กาก้า เห็นซองบุหรี่ถูกโยนลอยขึ้นมาบนเวที ก่อนที่จะหยิบขึ้นมาดมว่าเป็นกัญชาหรือเปล่า แต่เธอก็โยนมันทิ้งลงไปเมื่อทราบว่าเป็นเพียงแค่ยาสูบธรรมดา แต่แล้วกลับมีแฟนเพลงใจดีอีกรายโยนบุหรี่ยัดไส้กัญชาขึ้นไปให้ ซึ่งครั้งนี้ นักร้องสาววัย 26 ปี ก็จัดการหยิบขึ้นมาจุดไฟสูบอย่างสบายอุรา โดยเธอให้เหตุผลหลังจบคอนเสิร์ตว่าก็แค่ต้องการเช็กว่าเป็นของจริงหรือไม่ก็เท่านั้นเอง
 
หลังจากที่ดูดกัญชาเสร็จไปแล้ว 3 มวน กาก้า ก็โยนที่เหลือกลับลงไปในกลุ่มแฟนเพลง พร้อมทั้งกล่าวว่า ''สำหรับคนที่สงสัยว่าฉันกำลังเมายาอยู่หรือเปล่าในตอนนี้ ฉันขอบอกเลยว่าไม่เลย แค่นี้มันไม่พอที่จะทำให้ฉันเพ้อได้หรอกนะ''
 
อย่างไรก็ดี ถึงแม้ว่าบรรดาแฟนเพลงชาวดัตช์ต่างจะถูกใจกับการดูดกัญชาโชว์ของ กาก้า แต่ล่าสุด เธอก็โดนหลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์เรียบร้อยแล้วสำหรับการกระทำอันไม่สมควรของเธอที่อาจจะส่งสารไปในทางที่ผิดต่อบรรดาแฟนเพลงรุ่นเยาว์ก็เป็นได้
 
สำหรับ กาก้า เคยออกมายอมรับว่าเธอลองเล่นยาเสพติดสารพัดประเภทมาแล้วในอดีต แต่เธอยกให้ กัญชา เป็นสารเสพติดที่ทำให้เธอผ่อนคลายได้มากที่สุด พร้อมทั้งยืนยันว่าการใช้มันกับตัวเองเป็นประสบการณ์ทางจิตวิญญาณขั้นสูงสุดที่ทำให้เธอรู้สึกปลดปล่อยตัวเองเพื่อจินตนาการสำหรับงานเพลงของเธอ นอกจากนี้ เจ้าของเพลงฮิต ''Born This Way'' ยังเล่นมุกว่าเธออยากจะคุยกับ ประธานาธิบดี บารัค โอบามา ในเรื่องการทำให้การใช้กัญชาเป็นเรื่องที่ถูกกฎหมายในประเทศสหรัฐฯอีกด้วย





แหล่งข่าว สยามดารา



ดั่งที่เป็นข่าว ''เปิ้ล-นาคร'' เสียใจยังไม่ได้ลาคนดู รับเสียดายสาระแน แต่พยายามเข้าใจ โต้มีปัญหาเรื่องเงิน ''วิลลี่'', ''หอย'' ยันร่วมงานได้ แจงโดนปิดลักษ์ฟิล์มปัดเปิดบริษัทใหม่ทับไลน์

หลังจากมีประเด็นฮอตออกมาว่า ''เปิ้ล'' นาคร ศิลาชัย โดนเพื่อนรักอดีตร่วมหุ้นที่ก่อตั้ง บริษัท ลักษ์ 666 มาด้วยกัน วิลลี่ แมคอินทอช และ ''เสนาหอย'' เกียรติศักดิ์ อุดมนาค ถอดจากรายการสาระแนแล้ว แม้หนุ่มเปิ้ลจะถอนหุ้นออกไปแล้วก็จริง  เพราะเหตุที่ว่าอยากมีเวลาให้กับครอบครัวมากขึ้น แต่เจ้าตัวยืนยันหนักแน่นไม่มีปัญหาแตกคอกับเพื่อนทั้ง 2 แต่อย่างไร และรายการสาระแนที่ทำร่วมกันมานานกว่า 15 ปี ก็ยังจะมีต่อไป แต่ไฉนตอนนี้ถึงปลดออกกลางอากาศจากรายการแสระแนโดยที่เจ้าตัวไม่เคยได้รู้เรื่องมาก่อน เพราะเจ้าตัวได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อโปร์ไฟล์ ''ple.nakorn.5'' เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2555 โดยมีข้อความว่า ตนรู้สึกเหมือนฟ้าผ่ากลางกระบาล เมื่อได้รับแจ้งจากทีม ''สาระแน'' ว่าต่อจากนี้ ''เปิ้ล'' จะไม่ได้เป็นพิธีกรอีกต่อไป แม้ว่าจะเคยร่วมหัวจมท้ายด้วยกันก่อตั้งรายการ ''สาระแน'' จนขยายใหญ่เป็น บริษัท ลักษ์ 666 นานถึง 15 ปี และยังบอกต่ออีกว่า ''ตนไม่ทันได้ตั้งตัวที่จะกล่าวลากับทีมงานทุกคน แต่ขอให้ทุกคนตั้งใจเดินหน้ากันต่อไป และตั้งใจทำงานให้ดี คนทำทีวีจิตใจต้องดี และรักคนดูให้มากๆ''

หลังจากมีข่าวออกมา ทางด้าน วิลลี่ แมคอินทอช ประธาน บริษัท ลักษ์ 666 ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ออกมาแถลงข่าวทันทีว่า ตนรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้มา 2 สัปดาห์แล้ว แต่ก็ลำบากใจที่จะบอก ยันไม่มีเรื่องบาดหมางใจแน่นอน

แต่เพื่อความกระจ่างชัดของเรื่องนี้ เมื่อผู้สื่อข่าวสยามดารามีโอกาสได้พบ ''เปิ้ล-นาคร'' ในงานแถลงภาพยนตร์เรื่อง ''สูบคู่ กู้โลก'' เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2555 ณ เซ็นทรัล เวิลด์ จึงได้เข้าไปซักถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้นทันทีว่าโดนปลดจากพิธีกรสาระแนฟ้าผ่าอย่างไร โดยเจ้าตัวเปิดใจทันทีว่า เข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้น แต่เสียใจตรงที่ยังไม่ได้ลาน้องๆ ทีมงาน และคนดูที่ติดตามผลงานมาตลอด 

''สิ่งที่เขาบอกเราเข้าใจนะ สิ่งที่เราเสียใจคือตั้งตัวไม่ทัน พูดไม่ออก ยังไม่ได้ลาน้องๆ เลย อย่างน้อยจะได้ถือดอกไม้ธูปเทียนลาคนดู แม่เราสอนให้ไปมาลาไว้ เพราะเราทำมา 15 ปี ผมก็เข้าใจนะแค่เสียใจที่ยังไม่ได้ลา ขอเบรกสุดท้ายก็ยังดี ทุกอย่างมันเร็ว น้องๆ ที่ทำงานด้วยกันก็งง ผมอยากลาคนดู ผมอยากกราบลาคนดู สิ่งที่ทำไปเพราะรัก ที่แกล้งก็เพราะรัก ผมอยากตายไปกับรายการ วันนี้ต้องขอบคุณทุกคน ไม่อยากให้เห็นเปิ้ลเศร้า'' (เสียดายสาระแนไหมที่เราเป็นต้นคิด?) ''เสียดายชื่อสาระแนที่สุดในโลก แต่ดึงกลับมาไม่ได้เพราะเป็นลิขสิทธิ์ของเขา'' (เคยร้องไห้เพราะวิลลี่, หอย ไหม?) ''ก็เพิ่งครั้งนี้ครับ เป็นครั้งแรก'' (อยากบอกอะไร หอย, วิลลี่?) ''ไม่ได้อยากจะบอกแค่วิลลี่เปิ้ลหอย อยากบอกถึงน้องๆ ว่าตั้งใจทำงานกันต่อไป อยากให้รักคนดูให้มากๆ''

ถามต่อว่าเรื่องถอนหุ้นออกไปแล้ว บริษัท ลักษ์ฟิล์ม ล่ะ เจ้าตัวรับว่าถูกปิดลงแล้ว

''อย่างที่เคยบอกไว้ว่าเราอยากใช้เวลาทำงานน้อยลงเพื่ออยู่กับลูก อีกประเด็นนึงที่หอยบอกไว้ว่าไม่เห็นด้วยกับระบบบริหารเลยถอนตัวออกมา องค์กรใหญ่ขึ้นเราเองก็ต้องพาลูกไปโรงเรียนแล้วต้องลางาน ส่วนสาเหตุสุดท้ายที่ผมลาออกคือ เขาบอกว่าจะปิด บริษัท ลักษ์ฟิล์ม เราก็บอกว่าอย่าปิดเลย เราขอทำให้เต็มความสามารถเราก่อน ก็ขอร้องว่าอย่างเพิ่งปิดจนเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น คือผู้บริหารค่ายลาออก เราเลยคิดว่าเราเอาไม่อยู่ที่ดูแลน้องๆ ไม่ได้ เราเลยขอถอนหุ้น แล้วเขาก็แถลงต่อพนักงานว่าจะปิด บริษัท ลักษ์ฟิล์ม เขาพิจารณาว่าอาจไม่ทำตามเป้า ทางบริษัทจ้างผมในพิธีกรทีแรกเราคุยกันว่าในทางนี้ ซึ่งเราก็โอเค'' (เหมือนโดนหักหน้าไหม?) ''มันไม่ใช่อย่างนั้นครับ แต่มันเป็นที่ระบบ เราเองก็เลยขอออกตามน้องๆ เราหุ้นกันแล้ว 4 คน มันก็ต้องฟังความเห็นส่วนใหญ่เป็นหลัก ทีแรกเขาให้ผมดูแลฟิล์ม วิลลี่ หอย ดูทีวี'' 

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าความเป็นเพื่อนกับ ''วิลลี่'' และ ''หอย'' ยังเหมือนเดิมไหม เปิ้ลกล่าวว่ายังใช้คำว่าเพื่อนกันได้ โตๆ กันแล้วไม่ใช่เด็ก ปัดทะเลาะกันเรื่องเงิน

''ยังใช้คำนั้นได้ เรื่องธุรกิจอาจมองต่าง แต่คำว่าเพื่อนยังใช้กันได้ เราโตแล้วไม่ใช่เด็กๆ ถามว่าสบายใจเหมือนเดิมไหม ก็ใช่ครับ'' (ทะเลาะกันเรื่องกันหรือเปล่า ?) ''ไม่มีครับ ไม่มี ส่วนข่าวว่าผมปกป้อง ''เป้-นฤบดี'' ผู้ก่อตั้ง บริษัท ลักษ์ฟิล์ม อีกคนว่าโกงเงิน เรื่องนี้คงไม่มีอะไรครับ เป็นกระแสมากกว่า จิตใจตอนนี้ผมอยู่ด้วยฝัน ทีมงานใหม่ของผมจะต้องมีฝัน ผมอยากทำทีวีเป็นงานหลัก ถามว่ามีสิทธิ์ทำรายการแคนดิดอีกไหม ก็ทำได้นะครับ''

ต่อข้อซักถามว่าเป็นเพราะเปิ้ลออกไปสร้างหนังเองด้วยหรือเปล่าจึงทำให้เกิดปัญหาขึ้น ได้คำตอบทันทีว่าไม่เกี่ยวกัน ไม่คิดทับไลน์

''ไม่ครับผม ไม่เกี่ยวกับที่ผมเปิดบริษัทแล้วทับไลน์กัน เพราะบริษัทผมยังไม่มีหนังสักเรื่องเลย ผมเปิด บริษัท แพนกวินสตูดิโอ เป็นบริษัทที่ผมเปิดรับงานเองครับ ผมรักงานตรงนี้'' (เขาทำหนังสาระแนโอซาไก แต่ปิดลักษ์ฟิล์มงงไหม?) ''อันนี้ผมไม่ทราบครับ แต่ไม่แปลกใจ'' (หนังชนกัน?)  ''ผมรับจ้างเล่นอย่างเดียวไม่ใช่ร่วมทุน เราเป็นแค่นักแสดงคนหนึ่ง''

เสริมข้อซักถามอีกว่า ยังสามารถกลับไปที่บริษัทเก่าได้อยู่ไหม เจ้าตัวกล่าวว่าได้แน่นอนหากมีการว่าจ้างงาน แจงลูกน้องออกตามเรา เชื่อไม่กี่ยวกับตน วอนอย่าจับตามองเป็นคู่แข่ง

''ได้ครับถ้าเขาจ้าง น้องจ้างพี่ พี่จ้างน้องได้เสมอ เพราะลูกยังต้องกินนมครับ (มีลูกน้องเก่าอยากมาทำไหม?) ก็มีนะ แต่ผมบอกว่ากูยังเอาตัวไม่รอด เดี๋ยวให้ตั้งตัวได้ค่อยว่ากัน (จับตามองว่าเป็นคู่แข่งกัน?) อย่าเลยครับ เดี๋ยวจะมองว่าผมไปแข่งกับรายการยักษ์ใหญ่อีกหลายรายการ'' เปิ้ล กล่าว

ขอบคุณ www.siamdara.com



นักข่าวซวย! ถูกเสื้อแดงทำร้าย เหตุนึกว่าเป็นพันธมิตร



โชคดีเพื่อนนักข่าวเข้าช่วยทัน ขณะที่สมาคมฯ นักข่าวออกหนังสือขอม็อบเข้าใจการทำงาน
ผู้สื่อข่าว Mthai News รายงานจากหน้า กองบังคับการกองปราบปราม พหลโยธินว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 14.00 น.ที่ผ่านมา นายเผด็จโชค อภิสิทธิ์นิรันดร์ ผู้สื่อข่าว สายอาชญากรรม สำนักข่าว News Plus ถูกชายเสื้อแดง เข้าทำร้ายร่างกาย ระหว่างทำข่าว 2ม็อบชุมนุม
โดยผู้สื่อข่าวคนดังกล่าวได้เล่าเหตุระทึกว่า “ระหว่างที่ตนกำลังยืนสังเกตการณ์ทำข่าวพร้อมถือสมุดจดข่าวและโทรศัพท์เหตุปะทะกันรอบ 2 ของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. อยู่นั้น จู่ๆ ก็มีผู้ชายเป็นคนเสื้อแดงวิ่งเข้ามาล็อคคอจากข้างหลัง พร้อมกดคอลงและต่อยทำร้ายหลายครั้ง ตนจึงพยายามแสดงตัวว่าเป็นนักข่าว ทั้งที่ห้อยบัตรสื่อมวลชนไว้ที่หน้าอก แต่ชายคนดังกล่าวที่เป็นเสื้อแดงก็ไม่สนใจ
จนกระทั่งกลุ่มเพื่อนผู้สื่อข่าวที่เห็นเหตุการณ์และอยู่บริเวณใกล้เคียง ต้องวิ่งเข้ามาดึงชายเสื้อแดงคนดังกล่าวออก จากนั้นชายคนดังกล่าวได้วิ่งหลบเข้าไปยังกลุ่มผู้ชุมนุมและหายไป ตนจึงเดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.นวพล วิทยะเกริกไกร พนักงานสอบสวน สบ.1 สน.พหลโยธิน เพื่อลงบันทึกประจำวันแล้ว
ทั้งนี้หลังเกิดเหตุนักข่าวถูกทำร้าย ทางสมาคมนักข่าวฯ ได้ออกจดหมายเปิดผนึกทันที เพื่อขอแสดงความห่วงใยผู้สื่อข่าวที่ต้องปฎิบัติหน้าที่ท่ามกลางความรุนแรง พร้อมแนะหลักปฏิบัติในการรายงานข่าวอย่างปลอดภัย ดังนี้
สืบเนื่องจากเหตุการณ์ชุลมุนระหว่างกลุ่มมวลชนที่มีความเห็นต่างทางการเมือง ที่กองบังคับการปราบปราม เมื่อวันที่ 25 กันยายน ส่งผลให้มีผู้สื่อข่าวได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวนั้น นายเสด็จ บุนนาค อุปนายกฝ่ายสิทธิเสรีภาพและการปฏิรูปสื่อ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า
แม้ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่ากลุ่มที่ทำร้ายผู้สื่อข่าวเป็นฝ่ายใด และกระทำการโดยมีเจตนาประทุษร้ายผู้สื่อข่าวเพื่อขัดขวางการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนหรือไม่ แต่ทางสมาคมฯ ขอแสดงความห่วงใยมายังผู้สื่อข่าวที่ต้องไปปฏิบัติหน้าที่ของสื่อมวลชนในสถานการณ์ความรุนแรงเช่นนี้ และขอให้ผู้สื่อข่าวที่ต้องปฏิบัติหน้าที่พึงระลึก และระมัดระวังในการรายงานข่าวเป็นสำคัญ
ที่ผ่านมาสมาคมนักข่าวฯ คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้สื่อข่าว จึงได้จัดการอบรมการรายงานข่าวในสถานการณ์ความรุนแรงเพื่อเป็นหลักปฏิบัติในการรายงานข่าวให้ปลอดภัย และนำมาสู่การได้รับข้อเท็จจริงอย่างรอบด้าน โดยหลักปฏิบัติสำคัญในการรายงานข่าวในเหตุการณ์ที่มีความขัดแย้งของฝูงชน คือ
1) คำนึงถึงอยู่เสมอว่า ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นย่อมสะท้อนฝักฝ่าย ผู้สื่อข่าวจึงต้องพึงหลีกเลี่ยงการนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่มีลักษณะยั่วยุให้เกิดความรุนแรง
2) พึงระมัดระวังการตกเป็นเครื่องมือในการรายงานข่าวของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง อันจะนำไปสู่ความเข้าใจผิดของประชาชน
3) ในแง่ของความปลอดภัยของผู้สื่อข่าวเองจะต้องพึงระลึกอยู่เสมอว่า จะต้องระมัดระวังไม่ทำให้เกิดการยั่วยุ เช่น ควรแต่งกายให้เหมาะสม สำรวมในการสื่อสาร ไม่แสดงความก้าวร้าว และแสดงท่าทีที่เป็นมิตร
4) ควรแสดงตัวให้ชัดเจนเพื่ออำนวยความสะดวกและเพิ่มความปลอดภัยในการทำงาน นอกจากนี้ควรศึกษากลุ่มผู้ชุมนุมและสภาพพื้นที่ให้มากที่สุดเพื่อความปลอดภัยด้วย
นอกจากนี้ ในส่วนของผู้ชุมชุม สมาคมนักข่าวฯ อยากเรียกร้องให้ผู้ชุมนุมทุกฝ่ายเข้าใจการทำหน้าที่ของผู้สื่อข่าวที่มุ่งนำเสนอข่าวสาร ข้อเท็จจริงด้วย

แหล่งข่าว Mthai
รายการ เจาะข่าวเด่น  (เปิดใจสุเทพ พี่ชายหมอสุพัฒน์) 25 กันยา 2555
Jor Kao Den : 25 ก.ย. 55 : 25 Sep 2012 พตอ.หมออุ้มฆ่า

ขอขอบคุณ ไทยทีวีสี ช่อง 3 ch3

รายการเจาะข่าวเด่น โดย คุณสรยุทธ และทีมงาน

ยูทูป คลิป วีดีโอ Youtube clip VDO video



รายการ เจาะข่าวเด่น (เปิดใจสุเทพ พี่ชายหมอสุพัฒน์) 25 กันยา 2555 1/2



รายการ เจาะข่าวเด่น  (เปิดใจสุเทพ พี่ชายหมอสุพัฒน์) 25 กันยา 2555 2/2

ตัวอย่างหนัง The Assassins โจโฉ 2
เข้าฉาย 27 กันยายน 2555



The Assassins โจโฉ ผลงานหนังเรื่องใหม่ล่าสุดของ ซูเปอร์สตาร์เอเชียระดับตำนาน "โจวเหวินฟะ" หนังที่ทุ่มทุนสร้างมหาศาลถึง 130 ล้านหยวน กับการเล่าเรื่องของ "โจโฉ" ในวันที่เขาขึ้นสู่อำนาจสูงสุดและต้องเผชิญหน้ากับมือสังหารที่หมายเอาชีวิตของเขา ร่วมประชันบทบาทกับ หลิวอี้เฟย, แอนนี่ อวี้ และ ทามากิ ฮิโรชิ 

          "หนังเรื่องนี้ใช้ทุนสร้างถึง 130 ล้านหยวน เป็นการระดมทีมงานมืออาชีพ โดยมีผู้กำกับ "ลินเชน เฉาน์" เป็นผู้ดูแล "The Assassins โจโฉ" ผมรับบท "โจโฉ" ซึ่งนอกจากผมแล้ว เรายังได้ร่วมงานกับนักแสดงชั้นนำระดับแนวหน้าของเอเชียไม่ว่าจะเป็น "หลิวอี้เฟย" ที่เธอมาแสดงเป็นนางบำเรอสาวสวยชื่อ "หลิงจู ของโจโฉ" แล้วก็ร่วมด้วย ไน ยาน, ฮิโรชิ ทามากิ, รอย เฉียง และนักแสดงอีกมากมาย

          เรื่องราวของหนังเรื่องนี้ โจโฉเขาได้สร้างปราสาทแห่งหนึ่งขึ้นมา เพื่อใช้เป็นสถานที่ที่รวบรวมสาวงามจากทั่วแผ่นดิน ไว้สำหรับปรนนิบัติขับกล่อมฟ้อนรำให้โจโฉชมแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น แล้วจุดหักเหของเรื่องก็เกิดขึ้นเมื่อเขาเจอสาวงามนางหนึ่งนามว่าหลิงจู ซึ่งหญิงสาวคนนี้นี่เองที่ทำให้ชีวิตของโจโฉ ต้องพบกับความวุ่นวายอย่างที่เขาคาดไม่ถึง" โจเหวินฟะ ผู้รับบท โจโฉ กล่าว


The Assassins

The Assassins

The Assassins



คลิป เปิ้ล นาคร เผยร้องไห้โฮ ถูกปลด




ขอบคุณข้อมูล sanook.com


ผู้จัดการดาราชื่อดัง เอ ศุภชัย รับเรียกพระเอกหนุ่ม เคน ภูภูมิ มาตักเตือน หลังถูกสาวๆ รุมแฉว่าคุยหวิวผ่านไลน์ พร้อมสั่งให้เปลี่ยนเบอร์ หวังจะตัดปัญหาข่าวฉาวถี่ ยันไม่ได้พูดแรงใส่ แนะให้ปรับปรุงและเซฟตัวเองมากกว่านี้...

เอ ศุกชัย รับสั่งให้ เคน เปลี่ยนเบอร์โทร. "ก็ไม่ได้เรียกไปติอะไร แต่เราก็มีการพูดคุยกับน้อง ๆ ในสังกัดกันอยู่ ซึ่งเราก็บอกเขาให้ใช้ชีวิตอย่างระวัง ขนาดตัวพี่เองก็ยังต้องระวังเลย อย่างน้องมีจิตใจที่บริสุทธิ์ ไม่ค่อยคิดอะไร ก็บอกให้เขาเซฟตัวเองนิดนึง (ติเพราะมีข่าวคุยไลน์กับสาว ๆ ใช่ไหม?) ก็หลาย ๆ เรื่องมารวม ๆ กันครับ พี่ก็ไม่ได้พูดแรงกับน้องเขา แค่พี่เอจัดการเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ให้ใหม่หมดเลย จะได้ไม่ต้องติดต่อ ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ น้องเขาก็ไม่ได้ว่าอะไรเลย "

"ซึ่งแต่ก่อนที่เข้าวงการตัวเราจะทำอะไรก็ได้ ไม่จำเป็นต้องแคร์สื่อ ไม่แคร์ประชาชน แต่พอมาถึงจุดนี้ น้องเคนเป็นที่รักของทุกคน พี่เอบอกให้น้องเขาเปลี่ยนที่ทำอะไรทุกๆ อย่าง แต่เรื่องงานพี่เอยอมรับว่าน้องเขาทำงานได้ดีน่ะ ถือว่าฟาดเคราะห์ก็แล้วกัน อย่างพี่เอก็ชอบไปดูดวงบ่อย ๆ ว่าเลขไหนไม่ดีบ้าง ถือว่าเป็นการแก้เคล็ด (หลังจากมีข่าวเคนปรับตัวบ้างไหม?) น้องเคนน่ารักกับพี่เออยู่แล้ว แต่บางเรื่องที่อาจจะต้องระวัง ข่าวมีได้เป็นแค่น้ำจิ้ม แต่อย่ามีเยอะก็พอ "


สนับสนุนเนื้อหา
 กอซซิปสตาร์


แกงส้ม หนีบ ฮั่น เที่ยวผับ 2:2
        ถูกยกเป็นขวัญใจชาวสีม่วงตั้งแต่อยู่ในบ้าน เดอะสตาร์ แถมยังโดนจับเป็นคู่เกย์กันอยู่บ่อยๆ สำหรับนักร้องเท้าไฟ ฮั่น อิสริยะ กับ แกงส้ม ธนทัต แม้ทั้งคู่ออกมาฟันธงว่าแมนทั้งแท่ง 100 เปอร์เซ็น! ไหง๋ตาดีแอบเห็น หนุ่มแกงส้ม หนีบ หนุ่มฮั่น หลบมุมแดนซ์สะบัดกันแบบสนุกสุดเหวี่ยงสองต่อสองที่ผับดังย่านอาร์ซีเอ ทำเอาสาวๆ ในผับเห็นแล้วกรี๊ดกร๊าดสนั่น เอ้า....แอบควงกันเที่ยวสองคนเยี่ยงนี้เหมือนยิ่งตอกย้ำฉายาคู่จิ้นแห่งบ้าน เดอะสตาร์ 8  อ่ะเปล่าจ๊ะ...!!!
 


แกงส้ม-ฮั่น : แอบไปแล้วนะเนี่ย 

แกงส้ม-ฮั่น : ยังมีคนเห็นอีกเนอะ

แกงส้ม-ฮั่น : เราทั้งคู๋แมน 100 %

แกงส้ม-ฮั่น

ขอบคุณข้อมูล Mthai

กระแสมาแรง! กังนัมสไตล์ สไตล์เด็กๆจัดหนัก




ขอขอบคุณ คุณณัฐนันท์ ทรัพย์คงดี ส่งคลิป MV กังนัมสไตล์เวอร์ชั่นเด็ก แบบจัดเต็มมาเรียกรอยยิ้มให้กับแฟนข่าวได้ชมกัน และ เรื่องเล่าเช้านี้

คลิปฉาว! นายก อบต.ตบหน้าข้าราชการหญิง

25 กันยา 55 คลิปวิดิโอภาพข้าราชการหญิงถูกตบหน้าทำร้ายร่างกายกลางสำนักงาน กลายเป็นประเด็นที่คนในโลกออนไลน์กำลังพูดถึง โดยประเด็นดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา สำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลไทยาวาส อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ซึ่งประเด็นนี้มีประชาชนที่ทราบเรื่องได้นำเรื่องมาร้องเรียนกับสำนักข่าวหลายแห่ง และนำไปตั้งประเด็นตามกระทู้เว็บไซต์ต่างๆ จนเกิดเป็นความสนใจ
ล่าสุดเมื่อคืนวานนี้ (24 ก.ย.) รายการข่าว ประเด็นเด็ด 7 สี ทางสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 7 ได้นำเสนอคลิปวิดีโอเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายดังกล่าว ซึ่งบันทึกภาพไว้ได้จากกล้องวงจรปิดภายในสำนักงานฯ
คลิปวิดีโอดังกล่าวเผยให้เห็นเหตุการณ์ที่ นายสมเดช สุขสมกิจ นายกฯ อบต.ไทยาวาส เกิดอารมณ์ฉุนเฉียว เดินปรี่เข้าไปกระชากผมของ นางสาวรวิภา พึ่งพร หัวหน้าส่วนการคลัง ก่อนจะตบเข้าที่ใบหน้าอย่างแรง 2 ครั้ง พร้อมกับเดินหันหลังกลับไป และเตรียมจะกลับมาทำร้ายอีกครั้ง แต่ถูกเจ้าหน้าที่ที่เห็นเหตุการณ์ระงับเหตุไว้ได้เสียก่อน
ทางด้าน นางสาวรวิภา ผู้เสียหาย เชื่อว่า สาเหตุที่ถูกทำร้ายร่างกาย อาจเป็นเพราะความไม่พอใจในการเบิกงบประมาณโครงการหนึ่งที่ดำเนินการอย่างไม่ถูกต้อง เมื่อพยายามเข้าชี้แจง กลับสร้างความไม่พอใจและถูกทำร้ายดังกล่าว ขณะนี้ได้เข้าแจ้งความกับ สภ.นครชัยศรี แล้ว
ส่วนฟากคู่กรณี เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อสอบถามข้อเท็จจริงกับ นายสมเดช นายกฯ อบต.ไทยาวาส แต่กลับติดต่อไม่ได้ และได้สอบถามไปยัง ที่ว่าการอำเภอนครชัยศรี กลับได้คำตอบว่า กำลังตั้งคณะกรรมการสอบสวนและขอให้งดนำเสนอข่าว อ้างว่าไม่มีประโยชน์ต่อประชาชน
ขอขอบคุณข่าวจาก รายการประเด็นเด็ด 7 สี ทางช่อง 7



คลิกชมภาพต่อไป

คลิกชมภาพต่อไป

คลิกชมภาพต่อไป
คลิกชมภาพต่อไป

ข้อมูลรูปภาพ sanook.com