วันพุธที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2555

แจ้งจับอดีตดารารุ่นใหญ่ "แอ๊ด ชัยรัตน์ จิตธรรม" เหยื่ออ้างพาพวกมารุมกระทืบปางตาย ใช้ปืนยิงขู่ไม่ให้หนี หลังทวงเงินค่าโฆษณา
(3 ต.ค.) เมื่อวันที่ 2 ต.ค. นายอำนาจ แจ้งแสง อายุ 32 ปี เข้าแจ้งความที่สภ.สันทราย จ.เชียงใหม่ เพื่อดำเนินคดีกับนายเศรษฐกรณ์ ไชยวสุพงศ์ หรือ แอ๊ด ชัยรัตน์ จิตธรรม อายุ 48 ปี ดารานักแสดงรุ่นใหญ่ ข้อหาพยายามฆ่า โดยนายอำนาจให้การอ้างว่า เคยทำงานให้นายเศรษฐกรณ์ กับแฟนสาว ล่าสุดรับงานจากบริษัทเวิร์คพอยท์ ให้มาประชาสัมพันธ์งานคอนเสิร์ตที่จ.เชียงใหม่ ช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา จนงานแล้วเสร็จ ทางบริษัทซัพพลายเออร์ ที่รับทำโฆษณาติดต่อขอรับเงิน จึงติดต่อนายเศรษฐกรณ์ แต่ถูกบ่ายเบี่ยงตลอด จนโมโหพูดจาไม่ดีใส่
กระทั่งวันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมา นายเศรษฐกรณ์ ได้นัดเคลียร์ปัญหาที่ร้านอาหารในตลาดมีโชค เมื่อไปถึงพบเพียงแฟนสาว พร้อมบอกว่านายเศรษฐกรณ์ ไปธุระในกรุงเทพ หลังจากคุยกันเสร็จ ตนกับแฟนขี่จยย.กลับ ก็มีรถยนต์ยี่ห้อวอลโว่ กับรถกระบะ ขับตามมาปาดหน้าปิดท้าย ก่อนชายฉกรรจ์ 7-8 คน ใช้ปืนยิงขู่ไม่ให้หนี ก่อนใช้ไม้รุมทำร้ายตน จำได้ว่าหนึ่งในนั้นมีนายเศรษฐกรณ์ รวมอยู่ด้วย จากนั้นได้ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล แพทย์ต้องเย็บแผลที่ศีรษะ 18 เข็ม แขน 2 เข็ม และ ขา 2 เข็ม อีกทั้งกะโหลกศีรษะร้าว แต่กลัวว่าจะถูกข่มขู่ จึงขอออกจากห้องไอซียู มาแจ้งความดังกล่าว
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่า สำหรับคดีนี้มีพยานรู้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด และผู้บาดเจ็บก็อาการสาหัสด้วย ขณะนี้ต้องรอผลการตรวจจากแพทย์มาประกอบในสำนวนคดีอีกครั้งก่อนจะออกหมายจับ เพราะถือว่าเป็นคดีที่มีโทษร้ายแรง ตามกฎหมายหากคดีที่มีโทษไม่เกิน 3 ปี ให้ออกหมายเรียกก่อน 2 ครั้ง ถึงจะออกหมายจับ แต่คดีนี้สามารถขออำนาจศาลออกหมายจับข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าได้ทันที แต่ทั้งนี้จะให้โอกาสทางผู้ถูกกล่าวหาให้เดินทางมาพบภายในอาทิตย์นี้ก่อน หากไม่มาจะขออนุมัติหมายจับ เพื่อติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี
สำหรับ นายเศรษฐกรณ์ ไชยวสุพงศ์ หรือชัยรัตน์ จิตธรรม มีชื่อเล่นว่า "แอ๊ด" เป็นดารานักแสดงหนุ่มใหญ่ รุ่นคราวเดียวกับ หนุ่ม สันติสุข พรหมศิริ และ จินตหรา สุขพัฒน์ มีผลงานการแสดงทั้งจอเงินและจอแก้วหลายเรื่อง จากนั้นหายหน้าไปทำธุรกิจส่วนตัวนับ 10 ปี ก่อนกลับมารับบทเป็น พระราเมศวร โอรสองค์โต ของสมเด็จพระมหาจักรพรรดิในละครทีวีแนวอิงประวัติศาสตร์เรื่องกษัตริยา ของค่ายกันตนาในปี 2545 ก่อนหายไปจากวงการอีกครั้ง

แหล่งข่าว sanook.com

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น